http://www.maroomthai.com
สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 Home  Discovery Channel  Products Certificates  Payment  FAQ
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 17/09/2008
ปรับปรุง 07/10/2023
สถิติผู้เข้าชม2,450,353
Page Views3,198,616
Menu
หน้าแรก
สินค้า
การชำระเงิน
สมเด็จพระเทพฯทรงเปิดสวนมะรุม
คำถามที่พบบ่อย
ติดต่อเรา
สมเด็จพระเทพฯทรงเปิดสวนมะรุม
สินค้าและราคามะรุม
การชำระเงิน
มะรุมของดี...ของไทย
เอกสารรับรองคุณภาพมะรุม
สัมนาและแสดงสินค้ามะรุมน่าสนใจ
มหัศจรรย์ของ "มะรุม "
ประสบการณ์จริงของผู้ใช้มะรุม
คำถามมะรุมที่พบบ่อย
คุณค่าทางโภชนาการของมะรุม
ประโยชน์ของมะรุม
ประโยชน์ของน้ำมันมะรุม
เอนไซม์มะรุม
ประโยชน์ของชามะรุม
ลูกประคบมะรุม
น้ำยาบ้วนปากสมุนไพร
Products & Price
  Payment
  FAQ
Distributors Welcome
รู้ทันโรคกับมะรุม
รอบรู้เรื่องมะเร็ง...อื่นๆ
แจกมะรุมฟรี !!!
นานาสาระจากมะรุม
Moringa Research
ตรวจสอบการส่งมะรุม
แผนที่ฝ่ายจัดส่งสินค้ามะรุม
มะรุม:แหล่งอ้างอิงอื่นๆ
« March 2024»
SMTWTFS
     12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31      
 

ผลิตภัณฑ์กันแดดมีความสำคัญอย่างไร

 

ผลิตภัณฑ์กันแดดมีความสำคัญอย่างไร

ผิวหนัง เป็นอวัยวะที่ห่อหุ้มร่างกาย เป็นปราการด่านแรกที่ต้องเจอกับแสงแดด  ในแสงแดดมีรังสีอุลตราไวโอเลต (Ultraviolet ray) และยังพบได้ในแสงไฟนีออนและแสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ แต่เนื่องจากรังสียูวี จากแสงแดดจะพบได้ในปริมาณ ที่มากและรุนแรงกว่ารังสียูวีที่รับจากแหล่งอื่นๆหรืออาจกล่าว ได้อีกนัยหนึ่งว่าแสงแดดนั้นสามารถพบรังสียูวีได้ทุกชนิด รังสียูวีถูกแบ่งตามความยาวคลื่นได้ 3 ชนิด ยูวีเอ คือ รังสีที่มีคลื่นความยาวของแสงที่ประมาณ 320 - 400 นาโนมิเตอร์ สามารถทะลุทะลวงผ่านผิวหนังได้ลึกถึงชั้นหนังแท้ ทำลายโครงสร้างของอิลาสตินและคอลลาเจนใต้ผิว ซึ่งเป็นสาเหตุหลัก ของริ้วรอยแห่งวัย ยูวีบี คือ รังสีที่มีคลื่นความยาวของแสงที่ประมาณ 290 - 320 นาโนมิเตอร์ เป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวไหม้และ อาจลุกลามจนกลายเป็นมะเร็งผิวหนังได้ ยูวีซี คือ รังสีที่มีอันตรายมากที่สุด (Deadly Rays) เนื่องจากเป็นสาเหต ุของมะเร็งผิวหนัง แต่รังสีชนิดนี้สามารถดูดซับไว้โดยโอโซนบนชั้นบรรยากาศของโลก ปัจจุบันนี้พบว่าชั้นโอโซน ในบางแห่งได้บางลง ทำให้รังสีนี้ ส่องทะลุลงมาได้บ้างบางส่วน

แสดงการทะลุผ่านผิวหนังชั้นหนังกำพร้าและหนังแท้ของรังสียูวี

ประเภทของผลิตภัณฑ์กันแดด
ในปัจจุบันมีการเลือกใช้สารเคมี 2 ประเภท ในการป้องกันรังสียูวี คือ
1. ชนิดกายภาพ (Physical Sunscreen) เป็นสารที่มีคุณสมบัติสะท้อนแสงไม่ทำปฏิกิริยา กับผิวหนังและไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เช่น ไททาเนียม ไดออกไซด์ (Titanium Dioxide) ซิงค์ ออกไซด์ (Zinc Oxide) สารกันแดดนี้สามารถกันได้ทั้งรังสียูวีเอ ยูวีบี และอินฟราเรด แต่มีข้อเสียบ้างคือ ทำให้หน้าขาว ในปัจจุบันมีการทำให้สารกลุ่มนี้กันแดดได้ดี และหน้าไม่ขาวเว่อ
2. ชนิดเคมี (Chemical Sunscreen) เป็นสารที่มีคุณสมบัติดูดซับพลังงานแสงไว้ไม่ให้ผ่านไปทำ ปฏิกิริยากับผิวหนัง สารนี้เมื่อดูดซับพลังงานแสงไว้จะเปลี่ยนองค์ประกอบไป และอาจทำปฏิกิริยากับผิวหนัง ก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ สารกลุ่มนี้มีคุณสมบัติกันแสงแดดได้เป็นบางช่วงคลื่น เช่น ออกซิเบนโซน (Oxybenzone) ป้องกันรังสียูวีบี ไดเบนโซอิลมีเธน (Dibenzoylmethane) ป้องกันรังสียูวีเอ

จุดประสงค์ของการใช้ผลิตภัณฑ์กันแดด
เพื่อป้องกันแสงแดดและการเกิดฝ้า กระและรอยด่างดำ และป้องกันผิวจาการถูกแดดเผา อีกทั้งยังช่วยป้องกันโรคมะเร็งผิวหนัง   โดยมากแล้วผลิตภัณฑ์กันแดดหรือเครื่องสำอางกันแดด มักจะมีสารกันแดดประกอบอยู่ด้วยกันหลายชนิด เพื่อให้ผลิตภัณฑ์นั้นมีคุณสมบัติป้องกันรังสี ทั้ง ยูวีเอ ยูวีบี และ ยูวีซี เพื่อให้มีประสิทธิภาพ ในการป้องกันรังสีอุลตร้าไวโอเลตได้มากที่สุด  เมื่อต้องการทากันแดด ควรทาทิ้งไว้บนผิวหนังประมาณ 15 - 20 นาทีก่อนไปออกแดด เพื่อให้สารกันแดดเกาะติดกับผิวหนัง หากไปสถานที่แดดจัดมาก เช่น ทะเล ควรเลือกครีมกันแดด ที่มีประสิทธิภาพกันแดดสูง โดยดูจากค่า เอสพีเอฟ (SPF หรือ Sun Protection factor) ค่า  SPF คือ ค่าแสดงประสิทธิภาพของการปกป้องผิวจากแสงแดด และกรองกั้นอันตรายจากรังสี ยูวีบี ที่เป็นสาเหตุ ของความไหม้เกรียม ผิวหนังไหม้แดดจากสภาพผิวปกติ ตัวเลขที่แสดงค่า SPF นั้นได้จากอัตราส่วน ของระยะ เวลาที่ผิวหนังได้รับแสงแดดระหว่างผิวที่ทาสารกันแดดกับผิวที่ไม่ได้ทาสารกันแดดแล้วเกิดอาการแดงน้อยที่สุด

SPF      = ระยะเวลาของผิวหนังที่ได้รับแสงแดดแล้วเกิดอาการแดงเมื่อทาสารกันแดด     
               ระยะเวลาของผิวหนังที่ได้รับแสงแดดแล้วเกิดอาการแดงเมื่อไม่ได้ทาสารกันแดด

ดังนั้น หากสารกันแดดชนิดที่มีค่า SPF เท่ากับ 15 ก็หมายความว่า ถ้าสภาพผิวปกติสามารถอยู่ท่าม กลางแสงแดดได้นาน 15 นาที ถึงจะเกิดอาการไหม้แดด ถ้าใช้ครีมป้องกันแสงแดดที่มีค่า SPF 15 จะสามารถปกป้องผิวให้ อยู่ท่ามกลางแสงแดดได้นานเพิ่มขึ้นเป็น 15 เท่า คือ จาก 15 นาที เป็น 225 นาที นั่นเอง PA หรือProtection grade of UVA  คือ ค่าความสามารถในการปกป้องรังสียูวีเอ ซึ่งเป็นบ่อเกิดของ กระ ฝ้า และริ้วรอย เช่น PA++ เป็นค่าที่บอกว่าผลิตภัณฑ์สามารถปกป้องผิวจากยูวีเอ ได้ 4-8 เท่า แต่ถ้าเป็น PA+++ จะสามารถปกป้องผิวจากยูวีเอได้มากกว่า 8 เท่า ซึ่งเป็นระดับการป้องกันรังสียูวีเอในระดับสูงสุด การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กันแดด จะต้องสามารถป้องกันรังสีได้ทั้ง ยูวีเอ และ ยูวีบี โดยสารกันแดด ชนิดที่ดูดซึมแสง (Chemical sunscreen) จะใสไม่มีสี เมื่อทาแล้วจะมองไม่เห็น แต่ถ้าเป็นชนิดสะท้อนแสง (Physical sunscreen) เมื่อทาแล้วจะเห็นเป็นปื้นหนา จึงไม่เป็นที่นิยมใช้กัน แต่คนที่แพ้แสงแดดมาก จำเป็นจะต้องใช้สารกันแดด ที่มีสารสะท้อนแสงด้วย เพื่อลดปริมาณ รังสีอุลตร้าไวโอเลตที่ผิวหนัง อีกทั้งสารกันแดดต้องติดผิวหนังได้ดีแต่ต้องไม่เป็นสารที่ระเหยและไม่ควรละลายน้ำ (Water proof) หรือ ทนต่อการชะล้างของน้ำหรือเหงื่อได้ดี ควรทายากันแดดอย่างน้อย 1 ชม. ก่อนถูกแดดจึงจะได้ผลดีที่สุดสารกันแดดมีหลายชนิด เช่น ครีม โลชั่น เจล บางชนิดมีส่วนผสมของแอลอกฮอล์ (Alcohol) คนที่มีผิวค่อนข้างมัน หรือเป็นสิว ควรเลือกใช้สารกันแดดที่เป็นโลชั่นหรือเจล มากกว่าครีม เพราะจะไม่ เหนียวเหนอะหนะส่วนคนที่ผิวแห้งควรใช้ครีมกันแดด จะเหมาะกว่าเพราะครีมจะมีส่วนที่เป็น น้ำมันช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้นด้วย และไม่ควรใช้สารกันแดดที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เพราะจะทำให้ ผิวแห้งมากขึ้นได้
               สารกันแดดควรผ่านการทดสอบอาการระคายเคือง หรืออาการแพ้ ก่อนการใช้ แต่บางครั้งสารที่ผสม มากับสารกันแดด อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ เช่น สี ,น้ำหอม ,Mineral oil , Petrolatum , Lanolin derivertives , Isopropyl esters , Waxes ,Thickerners ฯลฯ ก่อนใช้สารกันแดด ควรทดลองใช้บางบริเวณก่อน เช่น บริเวณใต้ท้องแขน ใต้คาง ก่อน เป็นต้น

            ***Credited to CMI....Thank you for your info.***



 
 หน้าแรก สินค้าและราคา มะรุมแคปซูล น้ำมันมะรุม คำถามที่พบบ่อย  บทความ  รวมรูปภาพ
view