http://www.maroomthai.com
สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 Home  Discovery Channel  Products Certificates  Payment  FAQ
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 17/09/2008
ปรับปรุง 07/10/2023
สถิติผู้เข้าชม2,450,375
Page Views3,198,641
Menu
หน้าแรก
สินค้า
การชำระเงิน
สมเด็จพระเทพฯทรงเปิดสวนมะรุม
คำถามที่พบบ่อย
ติดต่อเรา
สมเด็จพระเทพฯทรงเปิดสวนมะรุม
สินค้าและราคามะรุม
การชำระเงิน
มะรุมของดี...ของไทย
เอกสารรับรองคุณภาพมะรุม
สัมนาและแสดงสินค้ามะรุมน่าสนใจ
มหัศจรรย์ของ "มะรุม "
ประสบการณ์จริงของผู้ใช้มะรุม
คำถามมะรุมที่พบบ่อย
คุณค่าทางโภชนาการของมะรุม
ประโยชน์ของมะรุม
ประโยชน์ของน้ำมันมะรุม
เอนไซม์มะรุม
ประโยชน์ของชามะรุม
ลูกประคบมะรุม
น้ำยาบ้วนปากสมุนไพร
Products & Price
  Payment
  FAQ
Distributors Welcome
รู้ทันโรคกับมะรุม
รอบรู้เรื่องมะเร็ง...อื่นๆ
แจกมะรุมฟรี !!!
นานาสาระจากมะรุม
Moringa Research
ตรวจสอบการส่งมะรุม
แผนที่ฝ่ายจัดส่งสินค้ามะรุม
มะรุม:แหล่งอ้างอิงอื่นๆ
« March 2024»
SMTWTFS
     12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31      
 

ผู้ป่วยโรคเอดส์

ผู้ป่วยโรคเอดส์

                                                มะรุมรักษาโรคเอดส์( HIV )

จากหนังสือ “รู้ลึกเรื่องมะรุม”รวบรวมโดยคุณ วิไลวรรณ อนุสารสุนทร 

                                  

  

 AIDS: Artemisia Annua Amanes ( A.3) and Moringa

       เราได้รับข่าวมหัศจรรย์จากเมืองมูโซมา  ประเทศแทนซาเนีย  Africa Inland Church ใน Tanzania (AICT)  ซึ่งมีศูนย์สุขภาพท้องถิ่นที่มีแพทย์ชาวแทนซาเนียเป็นผู้ดูแล ชื่อคุณหมอ Feleshi กับพยาบาลชาวเยอรมันชื่อ Maike Ettling ทำการช่วยเหลือกลุ่มคนที่กำลังเป็นโรคเอดส์  ที่เรียกตัวเองว่า เผ่า Kazo Roho

            ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา  พวกเขาได้ทำการรักษาคนไข้โรคเอดส์มากกว่า 100 คนโดยใช้ชา Artemisia Annua และมะรุมร่วมด้วยการดูแล  อย่างใกล้ชิด ด้านจิตใจ อารมณ์  และสังคมของผู้ป่วย  ผู้ป่วย 5 คนที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้ เป็นผู้ที่ได้เปลี่ยนจาก HIV – และแต่ละกรณีได้รับการยืนยัน

            ตามหลักการแพทย์แผนปัจจุบัน  มันเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ ถึงแม้ว่าคนป่วยจะได้รับการรักษาจนหายจากโรคเอดส์แล้ว เขาก้ยังคงมี HIV+ อยู่อย่างเดิมดังนั้น ผลการรักษาครั้งนี้จึงเป็นสิ่งที่มหัสจจรญ์และลึกลับมาก  สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือ สุขภาพของคนป่วยทุกคนดีขึ้นอย่างมาก  น้ำหนักเพิ่มขึ้น และสุขภาพโดยทั่วไปแข็งแรงขึ้น และผลกาตรวจ CD4 cell count ก็เพิ่มขึ้น

            หมอและพยาบาลได้ใช้การรักษาด้วยวิธีเพิ่มภูมิต้านทานให้คนไข้โรคเอดส์ที่ Musoms คุณหมอได้ใช้วิธีเทดียวกันนี้และยาสมุนไพรธรรมชาติรักษาโรค ตั้งแต่ ไอ นอนไม่หลับ  ปวดศรีษะ  และโรคต่างๆ และหมอยังให้ความช่วยเหลือด้านอาราณ์ และจิตวิญญาณของคนไข้อย่างมาก

 

คนไข้ # 1 C.M.

      อายุ  62 ปี  มีภรรยา 3 คน และเมื่อพบว่าตงเองเป็น HIV+ ได้ทิ้งภรรยาทั้ง 3 ไว้ที่หมู่บ้าน เพื่อไปรักษาตัว

      จาก HIV test ในปี 2002  ที่ AICT ศูนย์สุขภาพได้ผลบวก (จากการตรวจ 2 แบบCapillar (เจาะเลือด) และ Determine (การวินิจฉัยของแพทย์))

      อาการขณะนั้น :  เริ่มใช้ A-3, มะรุม และเม็ด pawpaw

      อาการทั่วไปเริ่มดีขึ้น

      ตรวจดูอีกครั้งในปี 2003 (AICT ศูนย์สุขภาพ)

      ผล: บวก

      ตรวจอีก 3 ครั้งในเดือนมีนาคม 2004 (1.AICT ศูนย์สุขภาพ 2. DDH Bunda 3.โรงพยาบาลของรัฐ, Musoms)

ทั้ง 3 ครั้งได้ผล : ลบ

 

คนไข้ # 2 T.C.

      เสียชีวิตในปี 2004 ด้วยปัญหาเกี่ยวกับหัวใจเมื่ออายุ 45 ปี อย่างไรก็ตามเธอเป็นตัวอย่างที่ดี

ผลกการรักษาทำให้เธอเป็น  ผลลบ

      แต่งงานและสามีเสียชีวิตปี 2000 มีบุตรธิดารวม 5 คน

      ตรวจที่ ร.พ. Musoma Government Hospital ปี 2001 ผลบวก

      เริ่มมารักษาที่ Kaza Roho ในปี 2003

      เริ่มทำงานที่กระทรวงสาธารณสุขในเขต Mara & Ukerewe โดยการไปเยี่ยมคนไข้ตามบ้าน

      เริ่มใช้ยา A-3 และมะรุม

      ตรวจที่ศูนย์สุขภาพ AITC  ในปี  2002 ก.พ. 2003 และ มิ.ย. 2003 ตรวจเลือดและหมอวินิจฉัยทั้ง 3 ครั้ง ได้ผลลบวก

      ตรวจอีกครั้ง ก.ย. 2003 ที่ศูนย์สุขภาพ Muaoms – ผลลบ

      ตรวจอีกครั้งที่ Muhmbili/ dar, Musoma  Government Hospital อีก 2 ครั้ง ผลทั้งหมดเป็นลบ

 

 

คนไข้ # 3 N.M.

      อายุ  25 ปี  แต่งงานปี 2004

      เป็นพยาบาลและผดุงครรภ์  ทำงานที่ศูนย์สุขภาพ Bunda AICT จนถึงปี 2004

      ตรวจ ธ.ค. 2003 ที่ศูนย์สุขภาพ Bunda AICT – ผลบวก

      เริ่มใช้  A-3, กระเทียม  และมะรุม

      ตรวจอีกครั้งที่ศูนย์สุขภาพ AITC มี.ค. 2003 – ผลบวก

      ตรวจอีกครั้ง ก.ค. 2004 ผล : ลบ

 

คนไข้ # 4 S.M.      

      ตรวจปี 2002 ที่ศูนย์สุขภาพ AICT เมือง Musoms ผล : บวก

      เป็นวัณโรคในปี 2002

      เริ่มรับ A-3 และมะรุม

      6 เดือนหลังจากนั้นอาการโดยทั่วไปดีขึ้นมาก

      ตรวจอีกครั้ง ก.ย. ที่ศูนย์สุขภาพ AICT ผล :ลบ

      ตรวจในปี 1999  โดยวิธี Capillars (ตรวจเลือด) (โดยได้ไปบริจาคเลือดที่ศูนย์สุขภาพ AICT เมือง Kazilankanda ผล : ลบ

      ตรวจอีกครั้ง ปี 2002  ณ. ที่เดิม ผล : ลบ

 

คนไข้ # 5 M.K.

      แต่งงานแล้ว

      ปี 2001 เริ่มจากรักษากับหมอท้องถิ่นที่ Ukerewe

      ตรวจ 2 ครั้งในปีนั้น ผลทั้ง 2 ครั้ง :  ผลบวก

      ปี 2003 เริ่มใช้ A-3 ที่ศูนย์สุขภาพ AICT Mesoma ผล : บวก

      ตรวจ มิ.ย. 2004  ที่ ที่เดิม ทั้งตรวจเลือดและหมอวินิจฉัย ผล : ลบ

      ตรวจ 2 ครั้งที่ ร.พ. Bugando, Mwanza  ผล : ลบ

      ตรวจ CD4 ในเดือน ก.ย. 2004 ได้ผล 815

      ตรวจอีกครั้งที่ศูนย์สุขภาพ  Musoma ในเดือน ก.ย. 2004 ผล : ลบ

      ผลของการใช้ A-3 และมะรุมในการรักษา ช่วยเพิ่ม cell CD4 จะเห็นผลได้จากกรณีดังต่อไปนี้

 

คนไข้ # 6 M.N.

      อายุ  32 ปี

      มาที่ศูนย์สุขภาพ AICT Musoms ในปี 2002 ด้วยอาการค่อนข้างหนัก

      ตรวจพบผลบวกมาก่อนแล้ว

      ตรวจที่ศูนย์  ผล : บวก

      ขณะนั้น  CD4 มีค่า 34

      เริ่มใช้ A-3 และมะรุมในการรักษา

      3 เดือนหลังจากนั้น  CD4 มีค่า 280

 

พบวิธีซ่อนตัวของเชื้อเอดส์ 

สำนักข่าวบีบีซีนิวส์- หลังจากทำการศึกษาอยู่นาน บัดนี้นักวิทยาศาสตร์พบแล้วว่า เชื่อเอชไอวีหลีกเลี่ยงฤทธิ์ยาเอดส์ตัวใหม่ได้อย่างไร

ถึงแม้ยาต้านโรคเอดส์ส่วนใหญ่จะสามารถขจัดเชื้อเอชไอวีออกไปได้บางส่วน แต่ยาเหล่านี้ไม่สามารถทำลายเชื้อดังกล่าวให้สิ้นซากจากร่างกายของผู้ติดเชื้อได้ และเชื้อจะยังคงซุกซ่อนอยู่ในร่างกาย ดังนั้นหากผู้ที่เชื่อว่าตัวเองหายจากโรคเอดส์แล้วไม่ดูแลสุขภาพให้ดี และไม่รับประทานยาอย่างต่อเนื่องก็มักจะมีโอกาสกลับมาเป็นได้ใหม่

เหตุผลนี้เองที่ทำให้ผู้ป่วยโรคเอดส์ต้องรับประทานยาที่มีราคาแพงไปตลอดชีวิต เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อเอชไอวีและป้องกันอาการกำเริบ แต่การทำเช่นนี้ก็อาจไม่ได้ผลเสมอไป เพราะยังไม่มีผู้ใดออกมายืนยันได้ว่าเชื้อเอชไอวีจะไม่ดื้อยาและไม่กลับมาแสดงอาการอีกในภายหลัง

อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ก็ไม่ย่อท้อโดยได้พยายามหาวิธีตามล่าและฆ่าเชื้อเอชไอวีที่หลบซ่อนอยู่ตลอดมา และล่าสุด คณะนักวิจัยจากวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์แมสซาชูเซตส์ก็ค้นพบวิธีที่เชื้อเอชไอวีหลบซ่อนจากการทำลายของยาเอดส์ตัวใหม่

โดยทั่วไปเชื้อเอชไอวีจะทำลายระบบภูมิคุ้มกันของเซลล์ที่เรียกกันว่า ที-เซลส์ และเดิมทีนักวิทยาศาสตร์และวงการแพทย์ก็คิดว่าเชื้อร้ายดังกล่าวจะทำลายเฉพาะเซลล์นี้ในขณะที่มันกำลังทำงานเท่านั้น แต่จากการศึกษาวิจัยที่ผ่านๆ มา ชี้ให้เห็นว่าไวรัสดังกล่าวจะทำงานอย่างเป็นระบบเพื่อให้ที-เซลล์ติดเชื้อแม้ในขณะที่เซลล์ไม่ทำงาน

นอกจากนี้เชื้อเอชไอวียังอาศัยเซลล์ดังกล่าวเป็นที่หลบซ่อน จึงทำให้ยาต้านโรคเอดส์ทำลายเชื้อเอชไอวีได้ไม่ทั่วถึง ยิ่งไปกว่านั้น คณะวิจัยยังพบว่าเชื้อเอชไอวีสามารถทำให้เซลล์ที่แบ่งตัวจากที-เซลล์ติดเชื้อได้อีกด้วย

ฉะนั้นเซลล์ที่สามซึ่งเกิดจากการแบ่งตัวที่เรียกว่าบี-เซลล์จึงติดเชื้อไปด้วย และยังเป็นการเร่งให้เชื้อเอชไอวีแพร่ขยายเร็วขึ้นด้วย เพราะเมื่อบี-เซลล์สัมผัสกับที-เซลล์ในขณะที่มันไม่ทำงาน ก็จะทำให้ที-เซลล์เกิดความอ่อนแอและไม่สามารถต้านทานเชื้อเอชไอวีได

โรเจอร์ โพเมอร์อานต์ซ นักวิจัยโรคเอดส์จากมหาวิทยาลัยโทมัส เจฟเฟอร์สัน กล่าวว่า การค้นพบความเกี่ยวพันที่ซับซ้อนนี้ จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ค้นคว้าหาวิธีกำจัดเชื้อเอชไอวีได้ โดยในทางทฤษฎีนั้นอาจจะเป็นไปได้ที่จะขัดขวางหรือยับยั้งการเกิดกระบวนการดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อเอชไอวีเข้าไปเกาะที-เซลล์ ในขณะที่มันไม่ทำงาน

 

 

 

 

ประสบการณ์จริงจากการรับประทาน

มะรุมแคปซูลตราพี่จุก

1.น้องชายของดิฉันอายุ 32 ปี ได้รับเชื้อ HIV มา และได้เข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง นานนับปีหมดเงินไปเป็นจำนวนมากแต่อาการก็ไม่ดีขึ้น จนอาการเข้าขั้นโคม่า คือระยะที่4ซึ่งเป็นระยะสุดท้ายแล้ว คุณหมอจึงแนะนำให้นำกลับมาพักที่บ้านดีกว่าเพื่อจะได้ประหยัดค่าใช้จ่าย พร้อมให้ทุกคนเตรียมตัวเตรียมใจไว้เพราะอาการหนักมากแล้วคงจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานนัก ทางบ้านได้ตระเตรียมงานศพไว้อย่างเงียบๆ บรรยากาศภายในบ้านมีแต่ความเศร้าโศกเสียใจที่เห็นสภาพน้องชายที่กำลังจะจากไป ซูบผอม จนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก นัยน์ตาโบ๋กลวง และน้ำเหลืองไหลออกมาโดยเฉพาะที่สะโพกเนื่องจากเป็นแผลกดทับ เมื่อเห็นสภาพของน้องชายที่กำลังจะตายไปต่อหน้าต่อตาก็ไม่สามารถทำใจได้ โดยเฉพาะคุณพ่อและคุณแม่ของดิฉัน พอดีได้ยินเพื่อนบอกว่ามะรุมสามารถรักษาโรคเอดส์ได้ ทีแรกก็ไม่เชื่อโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาอาการโคม่าของน้องแล้วคิดว่าคงไม่รอดแน่ แต่เมื่อเห็นสภาพของน้องแล้วจึงตัดสินใจบอกกับน้องว่าจะซื้อมะรุมแคปซูลมาให้ทาน ซึ่งน้องก็เชื่อ พอทานมะรุมแคปซูลตราพี่จุกของคุณเจี๊ยบไปประมาณ 1 สัปดาห์ หน้าตาของน้องก็ดูสดใสขึ้น อาการของโรคแทรกซ้อนอื่นๆก็ทุเลาลง เวลาผ่านไปประมาณ 1 เดือน(ทานมะรุมไปประมาณ 2 กระปุก)น้องก็สามารถลุกขึ้นจากเตียงเองได้และเดินลงมาชั้นล่างได้ ทุกคนเห็นต่างก็ดีใจเป็นอย่างมาก(จากสภาพที่นอนรอวันตายอยู่หยกๆ)น้องชายยังคงทานมะรุมอยู่อย่างต่อเนื่องจนปัจจุบันนี้หายดีเป็นปกติและใช้ชีวิตได้อย่างคนปกติทั่วไปแล้ว ส่วนแผลกดทับที่เป็นนั้นใช้ยาของคุณหมอหลอดละเป็นพันบาทไม่ดีขึ้นเลย จึงลองใช้น้ำมันมะรุมตราพี่จุกของคุณเจี๊ยบทาที่แผลดู ปรากฎว่าเพียง 2-3 วันเท่านั้นแผลเริ่มแห้ง และได้ใช้อย่างต่อเนื่องจนหายดีเป็นปกติ ทุกคนในบ้านมีความสุขมากและทานมะรุมแคปซูลตราพี่จุกกันทุกคนรวมทั้งสุนัข( ทุกครั้งที่ป่วย )ด้วย...ขอบคุณมะรุมตราพี่จุกอย่างมากที่ได้ช่วยชีวิตน้องชายของดิฉันและนำความสุขมาสู่ครอบครัวอีกครั้งหนึ่ง


2.สวัสดีครับพี่เจี๊ยบ ผมตื่นเต้นมากหลังจากทานมะรุมแคปซูลตราพี่จุกของพี่เจี๊ยบเลยอยากจะแบ่งปันให้ฟังดังนี้ คือผมป่วยเพราะไปได้รับเชื้อ HIV มา ตอนที่เป็นนั้นมีอาการเหนื่อยอ่อนเพลียง่าย พอตกเย็นก็มีไข้ต่ำๆตลอดเวลาน้ำหนักตัวลดลงเป็น 10 โล ทำอะไรก็ไม่ค่อยไหวต้องเลิกเล่นกีฬาไปโดยปริยาย เคยทานมะรุมของเจ้าอื่นมาเป็นปีก็ไม่เห็นดีขึ้น รู้สึกหมดหวังสุดๆ แต่พอมาอ่านเจอผู้ป่วยในเว็บไซ้ท์ที่กินมะรุมตราพี่จุกของพี่เจี๊ยบแล้วหายเป็นปกติ ก็รู้สึกทึ่ง(แต่ก็ไม่ค่อยเชื่อว่าจะได้ผลจริงเพราะกินที่อื่นมาก็ไม่ได้ผล)เลยทดลองสั่งซื้อมากิน 2 กระปุก รู้สืกดีใจเพราะสินค้ามาถึงเร็ว พอเปิดกระปุกดูก็ได้กลิ่นของมะรุมหอมมากๆและมีสีเขียวสดไม่เหมือนที่อื่นๆที่เคยซื้อมา รู้สึกประทับใจมาก  กินอยู่ประมาณ 1 เดือน ตอนนี้รู้สึกว่าร่างกายของผมแข็งแรงขึ้น น้ำหนักตัวกลับมาเท่าเดิม หน้าตาและบุคคลิกภาพดูดีเหมือนเดิม ไม่มีไข้ตอนเย็นแล้วและที่สำคัญคือผมสามารถกลับมาเล่นกีฬาได้เหมือนเดิมแล้ว สามารถใช้ชีวิตได้เหมือนปกติทุกอย่าง ผมดีใจมากจริงๆและตั้งใจว่าจะทานมะรุมแคปซูลตราพี่จุกของพี่เจี๊ยบต่อไปเรื่อยๆ...ขอให้เพื่อนๆอย่าเพิ่งหมดหวังนะครับ ลองทานมะรุมตราพี่จุกของพี่เจี๊ยบดูผมเชื่อว่าคงหายได้แน่นอน....คุณหนุ่ม (นามสมมติ)

3."สวัสดีครับคุณเจี๊ยบ ผมขอสั่งมะรุมแคปซูลตราพี่จุก 1 โหล ส่งที่อยู่เดิมนะครับ"19 สิงหาคม 2558 น้ำเสียงรัวตื่นเต้นมากจนฟังไม่ค่อยจะทัน....ย้อนหลังไปเมื่อประมาณเดือนมกราคมต่อเดือนกุมภาพันธ์ 58 ที่ผ่านมา คุณสอง( นามสมมติ )ได้โทรฯมาปรึกษาด้วยน้ำเสียงของความสิ้นหวังเพราะภรรยาตัวเองได้รับเชื้อ HIV มาจนค่า CD4 ลดต่ำลงเหลือแค่ 1(หนึ่ง)เท่านั้น...ย้ำนะครับเหลือแค่ 1 เท่านั้น ซึ่งคุณหมอให้นำภรรยากลับมาดูแลที่บ้านโดยให้เหตุผลในทำนองว่า...หมดหวังแล้ว...แต่ด้วยความต้องการจะช่วยชีวิตภรรยาจนวินาทีสุดท้าย..คุณสองจึงเซิร์สหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตและได้พบกับมะรุมแคปซูลตราพี่จุก...หลังจากได้พูดคุยและรับข้อมูลจากคุณแทน..คุณสองจึงตัดสินใจ(โดยไม่ค่อยเชื่อเท่าไรนัก)ลงทุนซื้อมะรุมตราพี่จุกจำนวน 1 โหลด้วยเงิน2,500 บาทเพื่อซื้อชีวิตของภรรยาสุดที่รักเอาไว้..โดยไม่ค่อยเชื่อเท่าไรนัก.เวลาผ่านไปประมาณ 3 เดือน..ปาฏิหารย์(มีจริง)ก็ได้บังเกิดขึ้นแก่ภรรยาของคุณสอง เพราะหลังจากทานมะรุมแคปซูลและไปพบหมอตามนัด ปรากฎว่าค่า CD4 กลับสูงขึ้นเป็น 178 ทำให้ทั้งคุณสองและภรรยาปลาบปลื้มใจเป็นอย่างมาก คุณหมอได้ถามว่าไปทำอะไรมา แต่คุณสองก็ไม่กล้าตอบหมอว่าทานมะรุมเพราะกลัวหมอจะต่อว่าและสั่งห้ามกินมะรุม ...แต่แล้วคุณสองก็สั่งซื้อเรื่อยมา ค่า CD4 ก็ดียิ่งขึ้นตามลำดับเป็น 300 กว่า ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้แก่คุณหมอมากๆและล่าสุดค่า CD4 เพิ่มขึ้นเป็น 420 แล้ว !!!!( 19 สิงหาคม 2558 ) ครอบครัวคุณสองก้าวพ้นความทุกข์ทรมานมาได้และขณะนี้มีความสุขมากๆ คุณสองสัญญาว่าถ้าคุณหมอที่ตรวจรักษาภรรยาถามว่าไปกินอะไรมาเขาจะบอกหมอว่า"กินมะรุมตราพี่จุกมา"....ยินดีด้วยครับ

วันนี้ 12 มกราคม 2559 ผมตื่นเต้นมากและจะจำวันนี้ตลอดไป เพราะเมื่ออาทิตย์ที่แล้วภรรยาผมไปพบหมอและตรวจเลือดตามที่นัดไว้ ซึ่งผลเลือดออกมา"ปรากฎว่าไม่พบเชื้อไวรัส HIV ในเลือดเลย(หมอบอกว่าถ้าพบเชื้อไวรัสHIV น้อยกว่า 40 ตัว จะถือว่าไม่มีเชื้อแล้ว)"ภรรยาผมหายเป็นปกติ แล้ว !!!! ผมดีใจมากๆ...ไม่อยากจะเชื่อเลยแต่ก็ต้องเชื่อว่ามะรุมตราพี่จุกสามารถรักษาโรคHIVของภรรยาผมได้...ถรรยาของผมหายดีเหมือนได้ชีวิตใหม่แล้ว...ขอบคุณมะรุมพี่จุกมากๆๆครับ

วันที่ 4 กรกฎาคม 2559 Up date ข้อมูล คุณสองซึ่งมีภรรยาเป็นHIV

เมื่อเช้าวันที่ 4 ก.ค 59 ได้โทรมาหาคุณเจี๊ยบเพื่อซื้อมะรุมแคปซูลให้ภรรยาอีก 1 โหล พร้อมแจ้งข่าวคราวของภรรยาด้วยความดีใจอย่างที่สุดว่า ... เมื่อ 3 เดือนก่อน ไปตรวจมา ไม่พบเชื้อ HIV แล้ว และค่า CD4 ได้เพิ่มขึ้นมาเป็น 560 สุขภาพแข็งแรงสามารถใช่ชีวิตได้ตามปกติ... คุณหมอไม่ได้ให้รับยาต้านอีกต่อไป...มหัศจรรย์จริงๆ... แต่คุณสองก็ยังคงให้ภรรยาทานมะรุมพี่จุกอย่างสม่ำเสมอไปตลอด เพราะมะรุมพี่จุก ทำให้คุณสองได้ภรรยาคู่ชีวิตคนเดิม ซึ่งแข็งแรงกลับคืนมา ... ทางกลุ่มสมุนไพรบ้านไทย66 ขอแสดงความยินดี อย่างยิ่งกับคุณสองด้วย

วันที่ 11 ตุลาคม 2559 คุณสองได้สั่งซื้อมะรุมพี่จุกเพิ่ม 1 โหล พร้อมทั้งได้รับทราบข่าวดีจากคุณสองว่าหลังจากที่ภรรยาได้ไปพบคุณหมอเพื่อพบและตรวจเลือดตามปกติ หมอแจ้งว่าตอนนี้ไม่พบเชื้อ HIV แล้ว....ดีใจมากๆ แต่ยังคงให้ภรรยาทานมะรุมพี่จุกต่อไปเรื่อยๆ

ตรวจสอบราคา"มะรุมตราพี่จุก"ได้ที่=>http://34ac63a6.linkbucks.com


มะรุมไม่ใช่ยา ไม่มีผลในการรักษาโรค โปรดพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อ

หากซื้อไปแล้วทางเราจะไม่รับคืนสินค้า


" ขอเชิญทุกท่านร่วมสร้างมหากุศลด้วยการแบ่งปันประสบการณ์อันทรงคุณค่าของท่านให้สังคมได้รับรู้ ได้ที่ maroomthai@gmail.com  ขอบคุณครับ"

 

Tags : เอดส์ มะรุมรักษาโรคเอดส์ มะรุมแคปซูลตราพี่จุกรักษาเอดส์

 
 หน้าแรก สินค้าและราคา มะรุมแคปซูล น้ำมันมะรุม คำถามที่พบบ่อย  บทความ  รวมรูปภาพ
view